“ธรรมชาติได้กำหนดไว้แล้วว่าที่นี่ต้องเป็นเมืองเซิร์ฟที่โลกต้องได้รู้จัก”
“เพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรมาก เราจึงเรียนรู้ที่จะเห็นค่ากับสิ่งที่เรามี”
“ที่นี่ ทำให้ฉันได้กลายเป็นนักเซิร์ฟ”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ในวีดิโอหนึ่ง (ดูข้างล่าง) ดิวก็ได้แอบนึกถึงเขาหลักของเราแหละ เลยไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังพูดถึงเมืองเซิร์ฟระดับต้นของยุโรป - Ericeira (“เอรีเซรา”) ของประเทศโปรตุเกส
โปรตุเกส เป็นประเทศที่สร้าง surf culture ของตนเองหลังจากที่ surf culture ในออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาได้เติบโตเกือบเต็มตัวแล้ว ดั้งเดิมเป็นเมืองของชาวประมง Ericeira เคยมีความสัมพันธ์กับทะเลแบบ “ทั้งรักทั้งเกลียด” เนื่องจากทะเลเป็นสิ่งนำพาอาหารและเงินเข้ามาสู่บ้านเมือง แต่ในอีกด้าน ก็เป็นสิ่งที่เอาชีวิตคนไปมากที่สุดเช่นกัน
ความสัมพันธ์นี้กับทะเลเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนักเซิร์ฟจากประเทศออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เข้ามาสำรวจประเทศโปรตุเกสในยุค 1960 และ 1970 และได้ทิ้งเซิร์ฟบอร์ดลำหนึ่งให้คนท้องถิ่นสลับกันเล่น จนกลายเป็นจุดกำเนิดของ Ericeira surf town นั่นเอง
เนื่องจาก Ericeira อยู่ไกลจากตัวเมืองหลัก และไม่มีอุปกรณ์ใช้ทำอะไรได้นอกจากการตกปลา จึงมีคนจำนวนน้อยที่มองเห็นถึงอนาคตเมืองเซิร์ฟของมัน แต่ด้วยความรักที่คนจำนวนหนึ่งมีต่อการเซิร์ฟ จึงทำให้มีคนมารวมตัวกัน และกล้าลงทุนธุรกิจส่วนตัวในเมืองเล็กแห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน Ericeira ได้เกิดมาเป็นเมืองอันดับต้นของการเซิร์ฟในยุโรป และเป็นแหล่งหลักของร้านเซิร์ฟระดับโลกหลายร้าน เช่น flagship store ของ Boardriders ที่นอกจากเป็นร้านเซิร์ฟที่ขายเสื้อผ้าและกระดานโต้คลื่นแล้ว ยังมีทั้งลานสเก็ตและร้านกาแฟให้นักเซิร์ฟในพื้นที่ได้มารวมตัวกันนอกทะเลอีกต่างหาก
การเติบโตของ surf culture จึงพาศิลปะหลายๆแบบเข้ามาในเมือง Ericeria เช่นวัฒนธรรมสเก็ต ดนตรี ศิลปะการสัก ศิลปะการถ่ายภาพและหนังที่ได้รับการฉลองโดยการจัดงาน Surf Film Festival รวมไปถึงการแบ่งปันศิลปะทั้งหมดนี้โดยการเชิญคนเพื่อนบ้าน และคนรอบโลกมาเจอกันในนามของเซิร์ฟ เช่นในงานแข่ง Vans Duct Tape 2019
แม้ Ericeira จะดึงดูดแบรนด์ใหญ่เข้ามาลงทุนได้ Ericeira ก็ยังคงเป็นเมืองเล็กที่เต็มไปด้วยธุรกิจส่วนตัว เช่น ร้านอาหารและโฮสเทลต่างๆ ที่ทำให้สังคมยังคงรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวในบางส่วน
พลัง surf culture ของ Ericeira คือความเชื่อที่มีต่อประสิทธิภาพของคลื่นที่บ้านเขา ที่สามารถสนับสนุนนักกีฬาเซิร์ฟจนได้ไปแข่งชิงรางวัลระดับโลก จนทำให้ทั้งเมืองได้เห็นว่า เมืองของตนเอง มีค่าพอที่สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ๆให้โลกได้เห็น
คลื่นที่ Ericeira มาจากมหาสมุทรแอตแลนติก จึงต้องใส่เวทสูทที่มีความหนา 3-4ม.ม ตลอดเวลาเพราะนำ้ค่อนค่างเย็นทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว Ericeira เป็นเมืองที่ได้รับลมจากไม่กี่ทิศของโลก แต่อำนวยไปด้วยจุดเซิร์ฟมากกว่า 15 จุด ใน 8 กิโลเมตร ที่เป็นทั้ง Beach break, Reef break และ Point break และจริงๆ มีอีกหลายจุดที่คนท้องถิ่น หรือ ‘locals’ รู้จักกัน แต่ยังคงเป็นความลับอยู่ ถือว่าคนนอก ต้องไปทำความรู้จักและพิสูจน์ให้คนท้องถิ่นได้เห็นว่ามีความสามารถและความตั้งใจพอเพื่อที่จะได้รับเชิญไปเซิร์ฟที่จุดลับต่างๆ ซึ่งการกระทำนี้เป็นหนึ่งลักษณะเอกลักษณ์ที่สามารถเห็นได้ใน surf culture ทั่วโลก
Surf culture ที่ Ericeira กลับเปิดโอกาสให้ลูกของชาวประมงทั้งหลายได้เปิดประสบการณ์ หางาน และทำธุรกิจใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมครอบครัว และเมืองของตนเอง ด้วยความรักที่ได้ค้นพบจากการเซิร์ฟ
เขาหลัก ก็เช่นกัน
เมืองของชาวประมงเล็กๆ ที่โชคดีมีคุณ Matt Blauer มาค้นพบความสัมพันธ์ใหม่กับคลื่นให้เราได้รู้จักกัน จากการกลัวคลื่นในทะเล สู่การขอบคุณมัน เพื่อสร้างความสุข ความเพลิดเพลิน และคุณภาพให้กับเศรษฐกิจของเขาหลักให้คนในประเทศได้รู้เห็น
ดิวตื่นเต้นกับฤดูการโต้คลื่นของฝั่งอันดามันปีที่จะถึงนี้มาก เนื่องจากมีความรู้สึกว่าจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามาส่งเสริม surf culture ของประเทศไทยมากขึ้น เช่น แบรนด์ใหญ่ๆที่มาร่วมเข้าสังคมของเรา การตั้งตัวใหม่ของธุรกิจเซิร์ฟหลายแห่ง นักเซิร์ฟไทยที่มีฝีมือในนำ้ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่งเสริมไปสู่ความสนุกที่จะได้จากการแข่งขันระดับประเทศ และต่างประเทศ รวมไปถึงกิจกรรมอีกหลายอย่างที่ตามมากับการเซิร์ฟ เช่นการสเก็ต การถ่ายรูป การแต่งตัว ไลฟ์สไตล์ และศิลปะอีกมากมายที่เราคงต้องค้นพบด้วยเวลากับสิ่งแวดล้อมของเรา เขาหลักอาจไม่ใหญ่เท่า Ericeira หรือ Bali แต่มันคือ surfer's paradise ของคนไทย
ดิวอยากให้ทุกคนได้กลับมาแบ่งปันความสุขของการโต้คลื่นกันอีก และหวังว่าจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆพี่ๆ และน้องๆ อีกหลายคนในฤดูที่จะถึง
อีก 2 เดือน เราก็จะได้เจอกันอีกแล้ว
Stay stoked & see you soon ค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก picture credits to:
ไม่พลาดเรื่องราวดีของการโต้คลื่นอย่าลืมไปกด Subscibe แจ้งเตือนบทความใหม่ได้ที่ www.bettersurfthailand.com/subscribe
และอย่าลืมให้กำลังนักเขียนโดยการกด Share หรือคอมเมนต์ด้านล่างนะครับ
ข้อมูลนักเขียน
Dew Promchareon นักโต้คลื่นหญิงไทยอายุ 20 ปี ที่เรียนและมีประสบการณ์โต้คลื่นที่สก็อตแลนด์ ปัจจุบันดิวอยู่ที่จังหวัดระยองและเริ่มต้นเข้าร่วมการแข่งขันสนามต่างๆ และผลักดันให้ผู้หญิงไทยออกมาโต้คลื่นกัน ติดตามภาพและวิดีโอการโต้คลื่นของดิวได้ที่ www.instagram.com/dewpromchareon
นบโตมาจากประวัต